ข้อกำหนดการซื้อขาย ของ SET50 Index Options

ข้อกำหนดการซื้อขาย SET50 Index Options ในตลาดอนุพันธ์นั้น ยังมีการกำหนดกฎเกณฑ์ในอีกหลายเรื่อง เช่น ราคาของออปชั่น (Option Value) สามารถเปลี่ยนแปลงได้แต่ต้องไม่เกินกว่า ร้อยละ 30 ของ ราคาอ้างอิง (Reference Price) หรือ Previous Day Option Settlement Price ของราคาปิดของ SET50 Index ในวันทำการก่อนหน้านั้น แต่ถ้าราคาดังกล่าวคำนวณออกมาแล้วได้ค่าติดลบ ตลาดจะกำหนดให้ราคาต่ำสุดที่ซื้อขายเท่ากับ 0.1 จุด เช่น ถ้า Previous Day Option Settlement Price ของ S50M08C500 = 50 จุด และราคาปิดของ SET50 Index ในวันทำการก่อนหน้า = 520 จุด ดังนั้น Price Limit ของ S50M08C500 ในวันทำการถัดไป จะเท่ากับราคาที่ใช้คำนวณสถานะกำไรขาดทุนในแต่ละวัน (Daily Settlement Price) (กรณีราคาสูงสุด คือ 50 + (0.3) (520.00) = 206 จุด และมีราคาต่ำสุด คือ 50 – (0.3) (250.00) = 0.1จุด เป็นต้น) สามารถคำนวณได้โดยคิดค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Volume Weighted Average) ของราคาซื้อขายในช่วงห้านาทีสุดท้าย แต่ถ้าไม่มีการซื้อขายใด ๆ ในช่วงห้านาทีสุดท้าย แต่มีราคา Best Bid และ Best Ask ค้างอยู่หลังปิดตลาด จะกำหนด Daily Settlement Price ดังนี้

  1. จะใช้ราคาซื้อขายสุดท้าย (Last) ถ้าราคาซื้อขายสุดท้ายอยู่ระหว่าง Best Bid และ Best Ask
  2. จะใช้ราคาเสนอซื้อที่ดีที่สุด (Best Bid) ถ้าราคาซื้อขายสุดท้าย (Last) อยู่ต่ำกว่าราคาเสนอซื้อที่ดีที่สุด (Best Bid)
  3. จะใช้ราคาเสนอขายที่ดีที่สุด (Best Ask) ถ้าราคาซื้อขาสุดท้าย (Last) อยู่สูงกว่าราคาเสนอขายที่ดีที่สุด (Best Ask)

ในกรณีที่ไม่มีการซื้อขายในช่วง 5 นาทีสุดท้าย และไม่มีราคา Best Bid หรือ Best Ask ค้างอยู่หลังจากเปิดตลาด ทางตลาดอาจพิจารณากำหนดราคาจากหลักการใดหลักการหนึ่งต่อไปนี้ คือ ใช้ราคา Previous Day Settlement Price หรือใช้ราคาทฤษฎี แต่หากว่าตลาดอนุพันธ์พิจารณาแล้วเห็นว่าราคาที่คำนวณดังกล่าวไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด ตลาดอนุพันธ์อาจพิจารณากำหนด Daily Settlement Price ได้ สำหรับการคำนวณหาราคาสุดท้าย (Final Settlement Price) เป็นการนำเอาค่าเฉลี่ยของ SET50 Index รายนาที ตั้งแต่เวลา 16:01 – 16:30 และค่าดัชนีราคาปิด SET50 Index ของวันนั้น โดยตัดค่ามากที่สุด 3 ค่า และค่าที่น้อยที่สุด 3 ค่าออก โดยใช้ทศนิยม 2 ตำแหน่ง วันซื้อขายสุดท้าย (Last Trading Day) คือ วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่สัญญาสิ้นอายุ โดยในวันซื้อขายสุดท้าย ตลาดจะต้องมีสัญญใหม่ให้ซื้อขายได้เป็นวันแรก (รวม 5 เดือนของการหมดอายุ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีเพียง 4 เดือนเท่านั้น)

ฐานะสุทธิในสัญญา SET50 Index Futures และในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอื่น ๆ ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 Index เมื่อคำนวณเทียบเท่ากับฐานะใน SET50 Index Futures (Equivalent Positions) ในเดืนอใดเดือนหนึ่ง หรือทุกเดือนรวมกันด้านใดด้านหนึ่งของตลาดไม่เกินกว่า 10,000 สัญญา ทั้งนี้ผู้ที่ลงทุนใน SET50 Index Options จะต้องวางหลักประกันเต็มจำนวนก่อนส่งคำสั่งซื้อขาย (Pre-Margin) โดยผุ้ซื้อต้องเป็นผู้จ่ายค่าพรีเมียม (Premium) พร้อมทั้งในทุกสิ้นวันต้องมีการปรับฐานะ (Mark-to-Market) เช่นเดียวกับ SET50 Index Futures และเมื่อ Mark-to-Market แล้วเงินประกันในบัญชีลดต่ำกว่าระดับที่กำหนดจะต้องนำเงินมาวางเพิ่ม การลงทุนใน Options ซึ่งเป็นสัญญาที่ใหสิทธิผู้ซื้อในการตัดสินใจ “ซื้อ” หรือ “ขาย” เมื่อผู้ซื้อขอใช้สิทธิตามสัญญา ผู้ขายจะต้องมีภาระที่ “ซื้อ” หรือ”ขาย” จากผู้ซื้อสัญญา ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ดังนั้นการวางหลักประกันจะต้องกระทำโดยผู้ขายสัญญา แต่ผู้ซื้อสัญญาไม่จำเป็นจะต้องวางหลักประกันใด ๆ เพราะผู้ซื้อสัญญาได้จ่ายค่าพรีเมียมไปแล้วInitial Margin เป็นเงินประกันเริ่มต้น ที่ผู้ลงทุนจะต้องวางเมื่อทำการขายสัญญา ไม่ว่าจะเป็นสัญญา Call หรือ Put ก็ตาม Maintenance Margin เป็นเงินประกันขั้นต่ำ ที่ผู้ลงทุนต้องดำรงไว้ในบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ ถ้ายอดเงินในบัญชีต่ำกว่าเงินประกันขั้นต่ำในวันใด (มีสถานะขาดทุน) ผู้ลงทุนจะต้องนำเงินประกันมาเติมให้เท่ากับหลักประกันเริ่มต้นผู้ที่ต้องการจะลงทุนในตราสารอนุพันธ์จะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญอย่างมากในการลงทุน พร้อมทั้งศึกษาถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการลงทุน เพราะกลยุทธ์ในการลงทุนในตราสารอนุพันธ์นั้นมีกลยุทธ์ที่มีความละเอียดอ่อน มีชั้นเชิงในการลงทุนสูง หากผู้ลงทุนไม่ทราบถึงกลไกและวิธีการลงทุที่ดี การลงทุนนั้นก็คงไม่ต่างอะไรไปจากการซื้อล็อตเตอรี่ (หวย) นั่นเอง